วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การเรียนรู้ครั้งที่ 7 วันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 8.30 - 12.30 น.


วันนี้ไม่ได้ไปเรียนเนื่องจากลาป่วยค่ะ จึงบันทึกความรู้ที่ได้เพื่อนได้เรียนกันในวันนี้
วันนี้ครูให้นำไม้ที่ตัดมาแล้วตัดส่วนตามที่ครูบอก และแจกนำดินน้ำมัน โดยให้นำไม้ที่ตัดมาทำเป็นรูปทรงต่างๆและเชื่อมต่อกันด้วยดินน้ำมัน แต่ไม่ได้มาเรียนเนื่องจากลาป่วยค่ะ 

การนำไปประยุกต์ใช้


- สามารถนำไปจัดกิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัยได้ ให้เด็กได้รู้จักการปฏิบัติและแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง 





สรุปบทความ , วิจัย และวีดีโอโทรทัศน์ครูที่นำเสนอในวันนี้


สรุปบทความของน.ส.พรประเสริฐ  กลับผดุง เลขที่ 13

เรื่อง คณิตศาสตร์ปฐมวัยเรียนอย่างไรให้สนุกและเข้าใจ

การสอนเด็กอนุบาลจะต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปไม่ต้องรีบ เราจำเป็นต้องปูพื้อฐานให้แน่ก่อนเมื่อเด็กมีฐานที่มั่นคงการไปต่อในด้านคณิตศาสตร์นั้นก็ง่ายและไปได้เร็ว ในการเรียนคณิตศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพเรียนให้ได้ดีและสนุกนั้นต้องผ่านการเล่นโดยเด็กสามารถเริ่มเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้ตั้งแต่ 1 ขวบ เด็กสามารถเรียนรู้ได้จำได้แต่ความเข้าใจจะเพิ่มขึ้นตามอายุ คณิตศาสตร์นี้ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเลข 1-10 เท่านั้น แต่ยังมีสี ขนาด รูปทรง ความกว้างความยาว นี้คือจุดเริ่มต้นของคณิตศาสตร์สำหรับเด็กเล็กๆ เด็กนั้นจะจดจำสัญลักษณ์ได้ว่าสัญลักษณ์แบบนี้คือเลขนี้แบบนี้คือเลขนั้นนะแต่เด็กจะไม่รู้ความหมาย เด็กแต่ละคนนั้นจะไม่เหมือนกันมีความสนใจต่างกัน บางคนสนใจวิชาการบางคนสนใจ ในการทำกิจกรรม ดังนั้นกิจกรรมจะต้องมีความสนุกและเข้ากับเด็กได้ในทุกรูปแบบ ผู้ปกครองก็มีส่วนสำคัญในการต่อยอด การสอนเราจะต้องคอยถามเด็กเพื่อกระตุ้นให้เด็กได้ใช้ความคิด






สรุปงานวิจัยของ น.ส.ณัฐณิชา ศรีบุตรตา เลขที่ 14

เรื่อง การส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยการจัดประสบการณ์กิจกรรมดนตรี  ตามแนวออร์ฟ-ชูคเวิร์ค 

กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการทดลอง

เป็นเด็กปฐมวัยชาย-หญิง อายุ 4-5 ปี จำนวน 30 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาล 2  
โรงเรียนศรีดรุณ จังหวัดสมุทรปราการ  โดยใช้ระยะเวลาทดลอง เป็นเวลา 8 สัปดาห์
ดยผสานกิจกรรมตางๆเขาดวยกันอยางผสมกลมกลืน ไดแก  
 - คําพูด 
- การรองเพลง 
- ลีลาและการเคลื่อนไหว 
- การใชรางกายทําจังหวะ 
- การคิดแตงทํานองหรือทาทางแบบทันทีทันใด

         การจัดประสบการณดนตรีตามแนวออรฟชูคเวิรค สามารถบูรณาการสาระการเรียนรูในดาน ตางๆผสมผสานเขาไปในกิจกรรมทั้ง 5   ดังกลาว การวิจัยครั้งนี้ตองการศึกษาความสัมพันธของการจัด ประสบการณดนตรีตามแนวออรฟชูคเวิรค สัมพันธกับทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร ในการวาง แผนการจัดกิจกรรมแตละครั้งจึงตองมีการบูรณาการเนื้อหาสาระทางดานคณิตศาสตรกับกิจกรรมดนตรีเพื่อสงเสริมทักษะพื้นฐานคณิตศาสตรอยางสัมพันธกัน




สรุปงานวิจัยของน.ส.ศิริพร  ขมิ้นแก้ว เลขที่ 11 (นำเสนอใหม่)

วิจัยเรื่อง ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการประกอบอาหาร ของ ศุภนันท์ พลายแดง

กลุ่มตัวอย่าง

         กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นเด็กปฐมวัยชาย - หญิง อายุระหว่าง 3-4 ปี
ที่กา ลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 1 ของโรงเรียนมิตรภาพ

ระยะเวลาในการทดลอง

       ใช้เวลาในการทดลอง 6 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน ๆ ละ 30 นาที

ตัวแปรที่ศึกษา

1 ตัวแปรต้น ได้แก่ การจัดกิจกรรมการประกอบอาหาร
2 ตัวแปรตาม ได้แก่ ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์

สรุปผลการวิจัย

        เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการประกอบอาหารก่อนและหลังการทดลอง
มีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยรวมและรายด้านแตกต่างกัน

แผนการจัดกิจกรรมการประกอบอาหารเพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยสาระการเรียนรู้ อาหารดีมีประโยชน์ เรื่อง น้าส้มคั้น


จุดประสงค์การเรียนรู้

1. เพื่อให้เด็กสามารถเปรียบเทียบปริมาณของน้า ส้มที่แตกต่างกันได้

สาระการเรียนรู้

1. สาระการเรียนรู้
- การปฏิบัติตนในการประกอบอาหาร
2. กิจกรรมสำคัญ
- การประกอบอาหาร และการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น

เนื้อหา

1. ประโยชน์ของส้ม
2. ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์การเปรียบเทียบ

ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม

ขั้นนำ


1. ครูให้เด็กทุกคนปิดตา และให้ชิมสิ่งที่ครูเตรียมไว้ในจานบนโต๊ะที่ละคน หลังจาก
ชิมครบทุกคนแล้ว ครูถามว่าคืออะไร เด็กช่วยกันตอบ ครูหยิบบัตรภาพและบัตรคำเฉลยส้ม
2. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาถึงประโยชน์ของส้ม โดยใช้คำถามดังนี้
3. เด็กและครูร่วมกันสนทนาถึงการนำส้มมาทำน้ำส้มคั้น ครูนำวัสดุ อุปกรณ์ต่าง ๆให้เด็กได้รู้จักและสัมผัสกันทั่ว
4. ครูและเด็กร่วมกันทบทวนข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติกิจกรรมประกอบอาหาร
การทำน้ำส้มคั้น เช่นมีข้อตกลงดังนี้
    4.1 เด็ก ๆ ต้องรู้จักอดทนรอคอย และมีระเบียบวินัย
    4.2 ไม่พูดคุยเสียงดัง ในระหว่างทำกิจกรรม
    4.3 ไม่ทำวัสดุ อุปกรณ์ เสียหาย และหลังจากปฏิบัติกิจกรรมเสร็จต้องช่วยกันเก็บ
    4.4 ต้องเคารพกฎกติกาในการประกอบอาหารโดยทำอย่างระมัดระวัง และช่วยเหลือกันและกัน

ขั้นดำเนินการ

1. เด็ก ๆ เข้าแถวรอรับอุปกรณ์ วัสดุ ต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำน้ำส้มคั้น
2. ครูแบ่งเด็กเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 จะเตรียมส้มและคั้น กลุ่มที่ 2 จะรับไปปรุงแต่งรสและแจกจ่ายเพื่อนๆ เพื่อชิม โดยครูคอยให้คำแนะนา ชี้แนะ
3. เมื่อได้น้ำส้มมาแล้ว ครูเตรียมแก้วใสที่มีรูปทรงเดียวกันมาทั้งหมด 6 ใบ แล้วรินน้ำส้มใส่ในแก้ว ซึ่งจะใส่ในปริมาณที่เท่ากันเป็นคู่ ๆ จากนั้นวางสลับกัน ติดหมายเลข 1-6 ที่แก้ว
ครูให้ตัวแทนกลุ่มทั้งสองกลุ่มออกมา จับคู่แก้วที่มีปริมาณน้า ส้มเท่ากัน ทีละกลุ่ม ให้เด็กที่เหลือ
ช่วยกันเป็นกรรมการและปรบมือชื่นชมกลุ่มที่ทำได้ถูกต้อง
4. หลังจากทำกิจกรรมเสร็จเด็ก ๆ ร่วมกันเก็บอุปกรณ์ และร่วมกันทำความสะอาด
บริเวณที่ทำกิจกรรม


ขั้นสรุป


1. ครู และเด็กร่วมกันสรุปถึงประโยชน์ของน้ำส้มคั้น
2. ครูกล่าวชื่นชมและให้กำลังใจเด็กแต่ละคนที่มีระเบียบวินัยในตนเอง

สื่อการเรียนรู้

1. ภาพส้ม
2. บัตรคำ ส้ม ป้ายตัวเลข 1-6
3. ผลส้ม
4. แก้วใส 6 ใบ และ อุปกรณ์ ส่วนผสมในการทา น้ำส้มคั้น

การวัดและการประเมินผล

1 สังเกตการสนทนา และการตอบคำถาม
2 แบบวัดทักษะทางคณิตศาสตร์ ระหว่างปฏิบัติกิจกรรมการประกอบอาหาร
2. เกณฑ์การวัดผล
1 หมายถึง เด็กสามารถตอบคา ถามได้
0 หมายถึง เด็กไม่สามารถตอบคา ถามได้






สรุปใบความรู้คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยได้ดังนี้







วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การเรียนรู้ครั้งที่ 6 วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 8.30 น. - 12.30 น.


บรรยากาศในห้องเรียน


เมื่อเริ่มเวลาเข้าเรียนอาจารย์แจกกระดาษให้นักศึกษาคนละ 1 แผ่น  เพื่อนๆตั้งใจปฏิบัติกิจกรรม และตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน  มีการจดบันทึกระหว่างเรียน  มีการตอบคำถามร่วมกันแสดงความคิดเห็น ตั้งใจดูวีดีโอโทรทัศน์ที่อาจารย์เปิดให้ วันนี้โดยรวมแล้วมีบรรยากาศที่ดีค่ะ


เรื่องที่เรียนและความรู้ที่ได้รับ


เรื่องที่เรียน

- การวางแผนชีวิตในการเลือกเป็นครู
- การเขียนตารางและแรเงาช่องตาราง
- วีดีโอโทรทัศน์ครู เรื่อง การทำ Pro ject
- การออกแบบวางตำแหน่ง , ทิศทาง
- การจัดประสบการณ์ให้เด็ก

ความรู้ที่ได้รับ

- การเลือกที่จะเป็นครูควรมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน และยอมรับสิ่งที่ต้องปฏิบัติในวิชาชีพให้ได้ ต้องเข้าใจในสิ่งที่จะทำ และรู้ว่าควรแก้ไขตนเองอย่างไรให้เหมาะสมกับอาชีพนั้น 
- วีดีโอโทรทัศน์ครู ได้นำเสนอการทำ Project ของเด็กอนุบาล 3 เรื่อง ประสบการณ์เกี่ยวกับเห็ด การทำนั้นจะต้องสังเกตความหลากหลายความสามารถของเด็ก เด็กแต่ละคนจะมีความสามารถแตกต่างกัน เช่น ศิลปะ , ดนตรี , การคิด จะต้องดึงความสามารถให้เด็กแสดงออกมา  การทำ Project จะมี 5 ลักษณะ คือ 1. การอภิปราย 2. การนำเสนอประสบการณ์เดิม 3. การนำเสนอภาคสนาม 4. สืบค้นข้อมูล 5. การจัดแสดง ต้องดูพัฒนาการและวิธีการเรียนรู้ของเด็ก จะต้องทำทุกระยะ  เรียงลำดับจากง่าย - ยาก ดูความต้องการและความสนใจของเด็กเป็นหลัก ครูต้องมีส่วนร่วมในการปฏิบัติด้วย จะต้องจัดให้สอดคล้องกับหลักสูตร และเลือกหัวข้อ โดยให้เด็กช่วยกันแสดงความคิดเห็นในการเลือกหัวข้อ ถ้าเด็กสนใจหัวข้อใดมากที่สุดให้เลือกหัวข้อนั้น แล้วครูจะต้องรวบรวมว่ามีอะไรบ้างจากประสบการณ์เดิมของเด็ก สิ่งสำคัญในการเลือกหัวข้อ คือ ครูต้องเปิดโอกาสให้เด็กนำเสนอประสบการณ์เดิม แล้วตั้งคำถามและคิดวิเคราะห์ว่าคำถามจะนำเสนอในรูปแบบใด ครูจะต้องคิดเสมอว่าเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้เด็กและคิดว่าทำได้
- การเขียนตารางเป็นช่อง จะทำให้รู้จักการคิดในการแรเงาในช่องได้หลายรูปแบบ มีโอกาสในการทำแบบอื่นได้อีก เวลาจัดประสบการณ์ให้เด็กต้องให้เด็กรู้จักคิด เด็กจะสามารถคิดว่ามีโอกาสอื่นที่จะทำได้อีก และพิจารณาว่ากิจกรรมนี้เหมาะสมสำหรับเด็กหรือไม่ ต้องเชื่อว่าสอดคล้องกับการเรียนการสอนจริง และคิดวิเคราะห์ว่าทำได้จริงหรือไม่ เหมือนการใช้ชีวิตประจำวันเราต้องรู้จักพิจารณาสิ่งที่เห็นว่าจริงหรือไม่ และสามารถนำไปทำในแบบใดได้อีกบ้าง

ภาพตารางที่เป็นกิจกรรมการเรียนในวันนี้


วาดตารางช่องละ 1 เซนติเมตร 


แรเงาในช่องติดกัน 2 ช่อง และเว้นแยกออกจากกันให้ชัดเจนเมื่อขึ้นแบบใหม่ ได้ทั้งหมด 4 แบบ


แรเงาในช่องติดกัน 2 ช่อง และเว้นแยกออกจากกันให้ชัดเจนเมื่อขึ้นแบบใหม่ ได้ทั้งหมด 11 แบบ


ทักษะที่ได้จากการเรียน


1.ทักษะการกำหนดเป้าหมายในชีวิต
2.ทักษะการเขียนตารางและการแรเงาในหลากหลายรูปแบบ
3.ทักษะการดูวีดีโอและคิดวิเคาระห์ในการดู
4.ทักษะการเรียงลำดับการสอน
5.ทักษะการคิดตอบคำถามจากปัญหาที่อาจารย์ได้ตั้งคำถาม
6.ทักษะการฟังในการเรียน
7.ทักษะการออกแบบวางตำแหน่งทิศทาง
8.ทักษะการจัดประสบการณ์และการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตร
9.ทักษะการนำเสนอการทำ Project ของเด็ก
10.ทักษะการนำเสนอหน้าชั้นเรียน


การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้


- สามารถกำหนดเป้าหมายในการใช้ชีวิตได้
- คิดวิเคราะห์และการออกแบบที่หลากหลายในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
- ศึกษาการสอนเด็กในแบบต่างๆ
ความต้องการและความสนใจของเด็กเป็นหลัก 
- ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับเด็ก


ประเมินตนเอง


วันนี้ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนและทำกิจกรรมอย่างตั้งใจ  สนใจเนื้อหาเรื่องที่เรียน จดบันทึกความรู้ในระหว่างเรียนได้เข้าใจ  รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนในการตอบคำถามของอาจารย์  พยายามคิดและหาคำตอบเมื่อมีคำถาม  ตั้งใจฟังเพื่อนๆที่นำเสนอและเข้าใจเนื้อหาของหัวข้อที่เพื่อนนำเสนอ ได้รู้จักการออกแบบในรูปแบบที่หลากหลาย และการคิดวิเคราะห์ในการปฏิบัติ


ประเมินเพื่อน



วันนี้ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนและทำกิจกรรมอย่างตั้งใจ อาจมีบางคนยังทำกิจกรรมพลาดบ้าง แต่ก็พยายามที่แก้ไขให้ถูกต้อง  สนใจเนื้อหาเรื่องที่เรียน จดบันทึกความรู้ในระหว่างเรียน  รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนในการตอบคำถามของอาจารย์  พยายามคิดและหาคำตอบเมื่อมีคำถาม มีการนำเสนอที่เข้าใจ แต่บางคนอาจมีเนื้อหาไม่ชัดเจนและยังไม่มั่นใจในการนำเสนอ แต่รับฟังคำแนะนำของอาจารย์และนำไปแก้ไขในครั้งต่อไป  มีการคิดตามเนื้อหาระหว่างที่เรียนและช่วยกันตอบคำถามค่ะ



เทคนิคการสอนและประเมินอาจารย์ผู้สอน


อาจารย์มีการนำกิจกรรมมาให้ปฏิบัติก่อนเริ่มเนื้อหาการสอน มีการยกตัวอย่างในการสอนทำให้เข้าใจเนื้อหาที่เรียนได้ง่าย  และสามารถนำมาปรับใช้ได้ในการเรียนการสอน  อาจารย์ได้ให้คำแนะนำตลอดการเรียนการสอน มีวีดีโอมาให้ดูทำให้น่าสนในและเข้าใจการเรียนมากขึ้น ได้รับความรู้เพิ่มเติมจากการดู อาจารย์อธิบายเนื้อหาเรื่องที่เรียนได้ละเอียดและชัดเจน มีการคอยรับฟังคำถามหรือเรื่องที่นักศึกษาสงสัยจากเนื้อหาที่เรียนเมื่อจบการเรียนการสอนของวิชาเสมอค่ะ 







สรุปบทความ , วิจัย และวีดีโอโทรทัศน์ครูที่นำเสนอในวันนี้


สรุปบทความของน.ส.มาลินี ทวีพงศ์ เลขที่ 10  เรื่อง เลขคณิตคิดสนุก แนะนำพ่อแม่สอนลูกๆจากกิจกรรมในบ้าน 

จากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โดยอาจารย์สุรัชน์ อินทสังข์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

      เด็กไทยคิดคำนวณเลขเก่ง แต่ถ้ายังขาดการให้เหตุผล ซึ่งเรื่องนี้พ่อแม่ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญ ที่จะช่วยให้เด็กฝึกคิดหาเหตุผลได้ โดยการชวนลูกคุย และหมั่นตั้งคำถาม ให้เด็กได้ฝึกคิด ส่วนคำตอบจะผิดหรือถูกยังไม่ใช่เรื่องสำคัญ คณิตศาสตร์ซ่อนอยู่ในหลายๆ ที่ ในชีวิตประจำวันของเรา เช่น หนังสือพิมพ์ ในห้องครัว ในสวน สนามเด็กเล่น เป็นต้น เมื่อผู้ปกครองพบเห็นอะไร ก็สามารถเก็บประเด็นแล้วนำมาพูดคุยกับลูกหลานได้ หรือหากิจกรรมสนุกมาทำร่วมกันในครอบครัวและให้เด็กมีส่วนร่วมด้วย นอกจากนี้ อ.สุรัชน์ ยังได้แนะนำเกมสนุกๆ ที่พ่อแม่สามารถนำไปเล่นกับเด็ก เพื่อช่วยฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ของลูกเพิ่มเติมจากที่โรงเรียนได้ไม่ยาก เช่น เกมทายตัวเลข เกมนับตัวเลข เกมโยนเหรียญ เกมทอยลูกเต๋า  การเล่นเกมจะทำให้เด็กชอบได้ง่าย เพราะมีการแข่งขันเข้ามาเกี่ยวด้วย การทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันที่บ้าน เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว 

สรุป 

  การส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์ให้เด็กจากที่บ้าน ยังเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ด้วย ทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องทั่วไปที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน และนำมาเล่นสนุกกันได้ ไม่ใช่เรื่องวิชาการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งก็จะทำให้เด็กสนใจและรู้สึกอยากเรียนคณิตศาสตร์มากขึ้น





สรุปวิจัย ของน.ส.ศิริพร ขมิ้นแก้ว นำเสนอใหม่ครั้งหน้าเนื่องจากเป็นวิจัยที่นานเกินไปค่ะ

สรุปวีดีโอโทรทัศน์ครู ของน.ส.ชลนิชา สิงห์คู่ นำเสนอใหม่ครั้งหน้าเนื่องจากไม่ตรงกับเนื้อหาที่เรียนค่ะ



สรุปวีดีโอโทรทัศน์ครู ของ น.ส.วรัญญา  ศรีดาวฤกษ์ เลขที่ 9(นำเสนอใหม่จากสัปดาห์ที่แล้ว)

เรื่องลูกเต่ากับการเรียนรู้  ของครูนิตยา โรงเรียนบ้านยางขาม

โดยหลักการของครู คือ การใช้ลูกเต๋าเพื่อเป็นสื่อในการเรียนรู้ของเด็กและนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ซึ่งในวีดีโอจะสาธิตการสอนได้ 2 อย่าง คือ 

1 เรื่องจำนวนคู่ - จำนวนคี่ โดยครูให้เด็กแต่ละคนโยนลูกเต๋าและให้เด็กนับจำนวนบนลูกเต๋าว่ามีจำนวนเท่าใด และนำไปเขียนบนกระดาน โดยมีตารางแบ่งเป็น 2 ฝั่งของจำนวนคี่และจำนวนคู่  เมื่อเด็กโยนเสร็จแล้วครูก็จะถามเด็กว่านี่คือเลขอะไรและเป็นจำนวนคู่หรือจำนวนคี่ 

2. เรื่องการบวกเลขอย่างง่าย  โดยการใช้ลูกเต๋า 2 ลูก พร้อมกัน และให้เด็กนับจำนวนว่าแต่ละลูกมีจำนวนเท่าใด และนำมาบวกกัน จากนั้นครูและเด็กร่วมกันแต่งโจทย์ปัญหาอย่างง่ายขึ้นมา เช่น แม่มีแมวอยู่ 3 ตัว พ่อซื้อมาอีก 4 ตัวตอนนี้แม่มีแมวทั้งหมดกี่ตัว

ซึ่งวีดีโอนี้จะสรุปได้ว่า

เด็กจะได้รับความรู้จากสื่ออุปกรณ์ที่ครูเตรียมมาใช้ได้อย่างเห็นภาพและเข้าใจง่ายมากขึ้นและกิจกรรมในครั้งนี้ยังให้ทั้งความรู้ความสนุกสนาน รวมไปถึงการสร้างความแข็งแรงด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็ก ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีและเป็นประโยชน์มาก




วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การเรียนรู้ครั้งที่ 5 วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลา 8.30 น. - 12.30 น.



บรรยากาศในห้องเรียน


วันนี้เพื่อนๆและอาจารย์เข้าห้องเรียนในเวลาใกล้กันเลยค่ะ อาจารย์จะแจกกระดาษให้เขียนชื่อของตนเองใหม่เพราะกระดาษในครั้งที่แล้วหายไปค่ะ  เมื่อแจกเสร็จก็นำไปติดไว้ในตารางบนกระดานเหมือนเดิมค่ะ เมื่ออาจารย์เริ่มสอนเพื่อนจะตั้งใจฟังและจดบันทึกระหว่างเรียนกันในขณะที่อาจารย์สอน และมีการตอบคำถามร่วมกันเหมือนครั้งที่ผ่านมาค่ะ  อาจมีปัญหาในการเรียนการสอนบ้าง แต่ก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ


เรื่องที่เรียนและความรู้ที่ได้รับ


เรื่องที่เรียน

- ตารางเวลาในการมาเรียน
- การส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์สำหรับเด็ก
- การนำภาพมาเชื่อมโยงในการปฏิบัติ
- การนำตารางการมาเรียนมาใช้ในโรงเรียน
- เวลาสำหรับเด็กปฐมวัย
- การนำเสนอและการออกแบบข้อมูลด้วยรูปภาพ
- การนับจำนวน
- การสอนให้เด็กจำตัวเลขคณิตศาสตร์ได้
- วิธีการจัดกิจกรรมสำหรับเด็ก
- การปฏิบัติกิจกรรมของเด็ก
- พื้นฐานของการคิดเลขสำหรับเด็ก
- การเปรียบเทียบจำนวนและประสบการณ์การเรียนคณิตศาสตร์
- การนำเสนอหน้าชั้นเรียน
- เพลงคณิตศาสตร์ , การแต่งเพลง , ดัดแปลงเพลง
- คำคล้องจองคณิตศาสตร์
- ลักษณะหลักสูตรที่ดี
- สาระในการสอนคณิตศาสตร์
- การจัดการสอนให้สอดคล้องกับการเรียนของเด็ก

ความรู้ที่ได้รับ

- การทำตารางเวลามาเรียนนั้นเป็นการส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เพื่อให้เด็กได้บันทึกข้อมูล สามารถนำเสนอข้อมูลเป็นแบบแผนภูมิได้
- การสร้างภาพขึ้นมาให้เด็กเห็นนั้นสามารถนำมาเชื่อมโยงในการปฏิบัติได้
- รู้จักใช้ตารางให้เป็นประโยชน์สามรถนำไปใช้เป็นในการสอนในโรงเรียน
- การนำกระดาษมาติดบนกระดานในช่องตารางการมาเรียนเป็นการนำเสนอข้อมูลที่เป็นรูปภาพ จะทำให้เด็กได้ประสบการณ์การเห็นตัวเลขหลากหลาย
- การออกแบบสื่อควรมองให้เป็นภาพรวม สามารถหยืดหยุ่นและนำไปใช้ในรูปแบบต่างๆได้
- การนับจำนวนเด็กมาก่อน - หลัง เป็นการนับบอกจำนวน ควรใช้เลขฮินดูอารบิคกำกับเพื่อแสดงจำนวนการมาก่อน - หลัง ได้
- การที่จะให้เด็กรู้จักตััวเลขได้นั้น คือ การใช้ภาพตัวเลขแล้วให้เด็กหยิบตัวเลขนั้นๆ จะทำให้เด็กสามารถจำตัวเลขได้ง่ายขึ้น
- การจัดกิจกรรมนั้นต้องดูพัฒนาการของเด็ก คือ สิ่งที่เด็กสามารถทำได้ในแต่ละช่วงวัยที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตามลำดับขั้นตอน และสังเกตดูว่าเด็กสามารถทำอะไรได้บ้าง
- การให้เด็กปฏิบัติด้วยตนเองจะเป็นวิธีการเรียนรู้ของเด็ก  เด็กแต่ละคนจะมีวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน และเป็นพื้นฐานของการคิดเลข
- ถ้าเด็กเขียนตัวเลขไม่ได้ให้เด็กใช้ภาพแทนในการสอนคณิตศาสตร์
- การเขียนตารางการมาเรียนนั้นจะเป็นประสบการณ์ในการเรียนคณิตศาสตร์และได้เปรียบเทียบจำนวนมากกว่า - น้อยกว่า
- การนำเสนอหน้าชั้นเรียนควรพิจารณาการนำเสนอของตนเองว่าดีหรือไม่และควรนำไปปรับปรุงและนำมาเสนอใหม่หรือไม่  ควรมีท่าทางการยืนและหน้าตาที่เหมาะสมในการนำเสนอ , จับใจความสำคัญของเรื่องที่นำเสนอให้ได้และออกมาเล่าให้ฟังได้ชัดเจนและเข้าใจ
- การสอนเพลงคณิตศาสตร์ สามารถเปลี่ยนแปลงหรือดัดแหลงเนื้อเพลงได้ แต่ใช้ทำนองเพลงเดิม เพราะจะช่วยกระตุ้นให้เด็กตั้งใจฟังและสนใจในการสอนมากขึ้น สามารถนำไปควบคุมและจัดการเรียนได้  เป็นครูนั้นต้องรู้จักการดัดแปลงเพลงได้ เป็นเทคนิคในการนำเข้าสู่บทเรียนการสอนได้
- การสอนร้องเพลงนั้นควรเริ่มให้เด็กอ่านเนื้อร้องและรู้ทำนองก่อน 

ภาพบทเพลงคณิตศาสตร์


เพลงที่ 1 เพลงนกกระจิบ


เพลงที่ 2 เพลงนับนิ้วมือ


เพลงที่ 3 เพลงจับปู


เพลงที่ 4 เพลงลูกแมวสิบตัว


เพลงที่ 5 เพลงบวก - ลบ



ตัวอย่างที่ดัดแปลงเนื้อเพลงบวก - ลบ

            บ้านฉันเลี้ยงควายหกตัว     ลุงให้อีกสี่ตัวนะเธอ
      มารวมกันนับดีดีซิเออ              ดูซิเธอรวมกันได้สิบตัว
      บ้านฉันเลี้ยงควายสิบตัว           หายไปสามตัวนะเธอ
      ฉันหาควายแล้วไม่เจอ              ดูซิเออเหลือเพียงแค่เจ็ดตัว   

- คำคล้องจองคณิตศาสตร์ เป็นสิ่งที่เด็กท่องจำได้ง่ายและเป็นเทคนิคในการนำเข้าสู่บทเรียนได้ด้วย

ภาพตัวอย่างคำคล้องจอง




- การสอนคณิตศาสตร์จะมีทั้ง 6 สาระการเรียนรู้
- การจัดการเรียนนั้นควรจัดให้สอดคล้องกับกรเรียนของเด็กมีความสมดุลและเกิดความคิดรวบยอด เกิดกระบวนการคิด
- ไม่ควรตำหนิเด็กในการเรียนการสอนเพราะจะทำให้เด็กขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
- การบรรยาย คือ การพูดสรุปใจความเรื่องนั้น
- ทักษะนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง

ลักษณะหลักสูตรที่ดี มีความสมดุลในเรื่องต่อไปนี้

1. เน้นกระบวนการคิดและการคิดรวบยอด
2. เน้นการเรียนรู้ภาษาและการใช้ภาษาพูดที่สัมพันธ์กับกิจกรรมในชีวิตประจำวันไม่ใช่การท่องจำ
3. แนะนำคำศัพท์ใหม่ๆและสัญลักษณ์ต่างๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป
4. สร้างเสริมให้เด็กเกิดความเชื่อมั่นและค้นคว้าข้อมูลเพื่อให้ได้คำตอบ
5. ส่งเสริมให้เด็กเกิดการรับรู้สามารถบรรยายและค้นคว้าเพิ่มเติม
6. เน้นให้เด็กเกิดความคิดรวบยอดมีทักษะคณิตศาสตร์ไปพร้อมกัน
7. เป็นโอกาสให้เด็กค้นคว้าสำรวจ ปฏิบัติ รู้จักติดสินใจด้วยตนเอง

ทักษะที่ได้จากการเรียน


1.ทักษะการบันทึกข้อมูลและการนำเสนอข้อมูล
2.ทักษะการบูรณาการการเรียนคณิตศาสตร์มาใช้ในชีวิตประจำวัน
3.ทักษะการเขียนตารางการมาเรียนของเด็ก
4.ทักษะการสอนเรื่องเวลาสำหรับเด็ก
5.ทักษะการคิดตอบคำถามจากปัญหาที่อาจารย์ได้ตั้งคำถาม
6.ทักษะการฟังในการเรียน
7.ทักษะในการนับจำนวน
8.ทักษะการใช้รูปภาพและนำมาเชื่อมโยงการฏิบัติ
9.ทักษะการร้องเพลงและการสอนร้องเพลง , คำคล้องจองคณิตศาสตร์
10.ทักษะการนำเสนอหน้าชั้นเรียน


การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้


- การนำตารางการมาเรียนมาใช้ในการเรียนการสอนให้เหมาะสม
นำทักษะที่ได้จากการเรียนนำมาใช้ในการเรียนการสอนของเด็กได้
- สอนเรื่องเวลาการนับจำนวนสำหรับเด็กได้เหมาะสม
- การนำรูปภาพมาเชื่อมโยงในการปฏิบัติ
- ดัดแปลงเนื้อเพลงและฝึกร้องเพลงเพื่อนำไปการเรียนการสอนใช้ในอนาคต
- ฝึกการนำเสนอหน้าชั้นเรียน


ประเมินตนเอง


วันนี้ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนและปฏิบัติกิจกรรมอย่างตั้งใจ อาจผิดพลาดบ้าง แต่ก็พยายามที่แก้ไขให้ถูกต้อง  สนใจเนื้อหาเรื่องที่เรียน จดบันทึกความรู้ในระหว่างเรียน  รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนในการตอบคำถามของอาจารย์  ตั้งใจฟังเพื่อนๆที่นำเสนอ ได้รู้จักการเขียนตารางการมาเรียนมากขึ้น พยายามคิดและหาคำตอบเมื่อมีคำถาม รับฟังคำแนะนำของอาจารย์อยู่เสมอ 


ประเมินเพื่อน


วันนี้ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนและทำกิจกรรมอย่างตั้งใจ สนใจเนื้อหาเรื่องที่เรียน จดบันทึกความรู้ในระหว่างเรียน  รับฟังความคิดเห็นของกันและกันในการตอบคำถามของอาจารย์  พยายามคิดและหาคำตอบเมื่อมีคำถาม มีการนำเสนอที่เข้าใจ แต่บางคนอาจมีเนื้อหาไม่ชัดเจนแต่เพื่อนก็ได้คิดจะนำไปแก้ไขในครั้งหน้า รับฟังคำแนะนำของอาจารย์อยู่เสมอ  อาจมีบางคนทำผิดพลาดบ้าง แต่ก็พยายามที่แก้ไขให้ถูกต้อง  มีการคิดตามเนื้อหาระหว่างที่เรียนและช่วยกันตอบคำถามค่ะ 


เทคนิคการสอนและประเมินอาจารย์ผู้สอน


อาจารย์มีการนำกิจกรรมมาให้ปฏิบัติก่อนเริ่มเนื้อหาการสอน มีการยกตัวอย่างในการสอนทำให้เข้าใจเนื้อหาที่เรียนได้ง่าย  และสามารถนำมาปรับใช้ได้ในการเรียนการสอน  อาจารย์ได้ให้คำแนะนำตลอดการเรียนการสอน อธิบายเนื้อหาเรื่องที่เรียนได้ละเอียดและชัดเจน มีการคอยรับฟังคำถามหรือเรื่องที่นักศึกษาสงสัยจากเนื้อหาที่เรียนเมื่อจบการเรียนการสอนของวิชาเสมอ  คอยตักเตือนนักศึกษาเมื่อทำผิดพลาดและให้นักศึกษาได้ช่วยกันคิดว่าควรแก้ไขให้เหมาะสมอย่างไร อาจารย์ได้ทรอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในการสอนควรยอมรับและแก้ไขในสิ่งที่ทำผิดพลาดไป 
และให้ทบทวนว่าควรทำอย่างไร อาจารย์ให้คำแนะนำการทำของเล่นคณิตศาสตร์ได้เข้าใจและชัดเจนทำให้สามารถนำปฏิบัติได้ค่ะ






*สรุปบทความ,วิจัยและวีดีโอโทรทัศน์ครูที่นำเสนอในวันนี้ไม่ตรงตามหัวข้อเรื่องจึงไม่ได้นำมาสรุปและจะนำมาสรุปใหม่ในครั้งหน้าค่ะ*